Yale Home AppYale Home App

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเข้าถึง Yale Home App

นี้คือคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแอป Yale Access เป็นแอป Yale Home หากคุณไม่พบสิ่งที่คุณกำลังมองหา โปรดติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าของเรา

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเข้าถึง Yale Home App

  • เรากำลังปรับปรุงบริการและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการอัปเกรดบริการแอปและกลยุทธ์ของ Yale ในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้บริโภค คุณได้รับเชิญให้ไปยังแอปพลิเคชัน Yale Home ของเรา

  • นี่ไม่ใช่การหลอกลวง, Yale ภูมิใจในการรักษาความปลอดภัยให้กับคุณและมอบบริการที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง 

    ในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของเราในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้บริโภค เราขอเชิญคุณเปลี่ยนไปใช้แอปใหม่ของเรา Yale Home ตั้งอยู่ที่นี่

  • ผู้ใช้ที่ได้รับการแจ้งเตือนทั้งหมดต้องทำการย้ายข้อมูลให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะสิ้นสุดในวันที่ 25 กรกฎาคม 2023 

    คุณอาจใช้ Yale Access เพื่อควบคุมอุปกรณ์ได้ชั่วคราว แต่เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อุปกรณ์ไม่สามารถใช้งานได้ โปรดดาวน์โหลด Yale Home

  • เมื่อคุณได้รับการแจ้งเตือน คำแนะนำของเราคือดาวน์โหลด Yale Home และลงชื่อเข้าใช้ทันที 

    โปรดแจ้งแขกทุกคนที่มีสิทธิ์เข้าถึงแอปเพื่อล็อค/บ้านของคุณ พวกเขาจะต้องย้ายข้อมูลหลังจากคุณเพื่อหลีกเลี่ยงการจำกัดการเข้าถึง

    หมายเหตุ - คุณไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีใหม่ ก่อนที่คุณจะออกจากระบบ Yale Access และลบแอปเก่า อย่าลืมไปที่โปรไฟล์ของคุณในแอป Yale Access เพื่อยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณ คุณต้องใช้อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เดียวกันในการลงชื่อในแอป Yale Home ใหม่

  • ข้อมูลอุปกรณ์และผู้ใช้จะถูกซิงค์กับ Yale Home โดยอัตโนมัติ (จำเป็นต้องมีข้อมูลประจำตัวก่อนหน้า)

    เราขอแนะนำให้คุณแจ้งเจ้าของและแขกคนอื่น ๆ ทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงทรัพย์สินของคุณเพื่อดาวน์โหลดและเข้าสู่ระบบ Yale Home หากคุณมีอุปกรณ์เสริมด้านการใช้งานรวม เช่น Google Home, Apple Homekit เป็นต้น คุณจะต้องตั้งค่านี้อีกครั้งโดยเพิ่มการผสานรวมใน Yale Home ผ่านเมนู 'Works With'

  • คุณไม่จำเป็นต้องยกเลิกการเชื่อมโยงบัญชีบุคคลที่สามใน Yale Access 

    เมื่อคุณย้ายไปที่ Yale Home แล้ว ให้ทำงานกับ Yale Home ใหม่จากแอพของพันธมิตร (ยกเว้น Philips Hue ควรลิงก์จาก Yale Home) 

    โปรดทราบว่า HomeKit จะไม่ได้รับผลกระทบจากการย้ายข้อมูล

  • ลิงก์ไปยังการรวมระบบเหล่านี้จะใช้งานไม่ได้ คุณจะต้องตั้งค่าใหม่อีกครั้ง โดยมีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้:

    ขั้นตอนที่ 1

    ดาวน์โหลด【Yale Home】ที่ IOS และ Android และเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลประจำตัวของคุณ (เหมือนกับ Yale Access)

    ขั้นตอนที่ 2

    คลิกที่แถบด้านข้างและเข้าไปที่ 'Works With' ซึ่งคุณจะพบพันธมิตรทั้งหมดที่เราสามารถผสานการทำงานด้วยได้

    ขั้นตอนที่ 3

    มีสองวิธีในการกลับมาร่วมงานกับพาร์ทเนอร์เหล่านี้:

    1. เลือกชื่อคู่ค้าใน Yale Home (หากคุณต้องการทำงานกับ PHILIPS HUE วิธีนี้เป็นวิธีที่แนะนำ)
    2. คุณสามารถใช้แอพของพันธมิตรได้โดยตรงเพื่อเพิ่มอุปกรณ์ Yale อีกครั้ง
  • Yale Home เป็นแอปพลิเคชั่นที่ถูกต้อง

    หมายเหตุ - คุณไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีใหม่ ก่อนที่คุณจะออกจากระบบ Yale Access และลบแอปเก่า อย่าลืมไปที่โปรไฟล์ของคุณในแอป Yale Access เพื่อยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณ คุณต้องใช้อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เดียวกันในการลงชื่อในแอป Yale Home ใหม่

  • หากก่อนหน้านี้คุณมีบัญชี Yale Access โปรดใช้ข้อมูลรับรองเดิมและเข้าสู่ระบบ. คุณไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีใหม่

    หมายเหตุ - ก่อนที่คุณจะออกจากระบบ Yale Access และลบแอปเก่า อย่าลืมไปที่โปรไฟล์ของคุณในแอป Yale Access เพื่อยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณ คุณต้องใช้อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เดียวกันในการลงชื่อในแอป Yale Home ใหม่

  • เนื่องจากการอัปเกรดบริการแอปและกลยุทธ์ของ Yale เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้บริโภค โปรดติดตั้งแอปพลิเคชัน Yale Home ของเรา

  • ในการเชื่อนต่อข้อมูลทั้งหมดของคุณ คุณต้องเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลเดียวกันกับที่คุณใช้สำหรับแอป Yale Access

    เคล็ดลับคือก่อนที่คุณจะออกจากระบบ Yale Access และลบแอปเก่า อย่าลืมไปที่โปรไฟล์ของคุณในแอป Yale Access เพื่อยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณ หากเป็นกรณีที่มีการแสดงข้อมูลเก่าในหน้าข้อมูลบัญชี คุณสามารถอัปเดตรายละเอียดเหล่านี้ในแอป Yale Access ก่อนที่จะพยายามเข้าสู่ระบบ Yale Home

    หากคุณลืมรหัสผ่าน คุณสามารถกด "ลืมรหัสผ่านของฉัน" ใน Yale Home เพื่อรีเซ็ตรหัสผ่าน จากนั้นคุณจะสามารถยืนยันตัวตนได้ทั้งทางอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์

  • คุณสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านโดยกด 'ลืมรหัสผ่าน' ในหน้าเข้าสู่ระบบของ Yale Home

    หรือกดลิงก์นี้เพื่อรีเซ็ตรหัสผ่านของคุณผ่านการจัดการบัญชีออนไลน์  https://account.aaecosystem.com/login

    หมายเหตุ - ก่อนที่คุณจะออกจากระบบ Yale Access และลบแอปเก่า อย่าลืมไปที่โปรไฟล์ของคุณในแอป Yale Access เพื่อยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณ ซึ่งจำเป็นต้องใช้อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เดิม เมื่อทำตามขั้นตอนการลืมรหัสผ่าน

  • หากคุณได้รับการแจ้งเตือนการย้ายข้อมูลแต่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Yale Home ได้ โปรดใช้ส่วน 'ลืมรหัสผ่าน' ในแอป Yale Home

    หากคุณไม่ได้รับข้อความใดๆ โปรดใช้ Yale Access

  • หากคุณได้รับการแจ้งเตือนให้ย้ายไปที่ Yale Home คุณจะใช้แอปพลิเคชัน Yale Access ไม่ได้อีกต่อไป

    หมายเหตุ - ก่อนที่คุณจะออกจากระบบ Yale Access และลบแอปเก่า อย่าลืมไปที่โปรไฟล์ของคุณในแอป Yale Access เพื่อยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณ คุณต้องใช้อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เดียวกันในการลงชื่อในแอป Yale Home ใหม่

  •  รหัสยืนยันที่ส่งทาง SMS หรืออีเมลอาจล่าช้า คุณสามารถรอสักครู่

    หากคุณไม่สามารถรับ SMS ได้ โปรดลองใช้การยืนยันอีเมล หากคุณยังไม่ได้รับรหัสยืนยันอีเมล โปรดตรวจสอบกล่องจดหมายขยะก่อน หากวิธีแก้ไขปัญหาด้านบนแต่ละข้อใช้ไม่ได้ โปรดติดต่อฝ่ายบริการหลังการขาย

     สิ่งที่ทีมซัพพอทหลังการขาย สามารถทำได้คือหา verification code จาก Yale Home tool และแจ้งcodeให้แก่ลูกค้า รวมถึงต้องแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ผ่าน Jira เพื่อให้ผู้พัฒนาระบบสามารถหาสาเหตุของปัญหา

  • ภูมิภาคของอเมริกาเหนือจะถูกจำกัดให้ค้นหา Yale Home ในกรณีนี้ โปรดเปลี่ยนภูมิภาคบัญชีของคุณเป็นสถานที่นอกอเมริกาเหนือ 

    เพื่อให้ Yale Home แสดงใน App Store ได้อย่างถูกต้อง

  • โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อให้พวกเขาตรวจสอบเรื่องนี้ให้คุณ

  • นี่แสดงว่าคุณไม่มีอุปกรณ์ที่รองรับและจำเป็นต้องใช้ Yale Access โปรดใช้ Yale Access ต่อไป

  • ข้อความต่อไปนี้ระบุว่าอุปกรณ์ของคุณไม่รองรับ Yale Home และคุณจำเป็นต้องใช้ Yale Access

  • จำเป็นต้องรีบูต Connect Bridge ซึ่งสามารถทำได้โดยถอดการเชื่อมต่อ Connect Bridge ออกจากเต้ารับไฟฟ้าหรือรอ 6 ชั่วโมงเพื่อให้ Connect Bridge รีบูตโดยอัตโนมัติ

คำถามที่พบบ่อย Yale Home

  • ด้วยแอปพลิเคชั่นจาก Yale Home คุณสามารถควบคุมประตูของคุณได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตามจากสมาร์ทโฟนของคุณ

    ดาวน์โหลดแอป Yale Home โดยตรงจาก App Store หรือ Google Play

  • คุณสามารถอัปเดตข้อมูลบัญชีได้โดยตรงในแอปพลิเคชั่น Yale Home เปิดแอปพลิเคชั่นจากเมนูด้านข้างไปที่การตั้งค่าผู้ใช้โดยเลือกดูโปรไฟล์ที่ด้านบนซ้าย

  • ในปัจจุบัน แอพของเราได้รับการปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์มือถือ iOS และ Android Yale ใช้โทเค็นเพื่ออนุญาตการเข้าอุปกรณ์มือถือของคุณที่บ้านของคุณ เพื่อความปลอดภัย การดำเนินการนี้ใช้ไม่ได้กับแอปพลิเคชั่นเดสก์ท็อป

  • เฉพาะเจ้าของอุปกรณ์เท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เพิ่ม/ลบหรือจำกัดการเข้าถึงของผู้อื่น หากคุณเป็นเจ้าของอุปกรณ์และต้องการลบ Guest คนอื่น ๆ ออกจากอุปกรณ์ของคุณ ให้เปิดแอป Yale Home แล้วไป Guest List เลือก user ที่คุณต้องการลบออกจากแอพ ในหน้าจอถัดไป ให้เลือก REMOVE USER เลือกตัวเลือก Delete ในข้อความเพื่อทำตามขั้นตอนและเพื่อจบการทำงาน การเปลี่ยนแปลงการเข้าถึงของ guest จะปรากฏในบันทึกกิจกรรม

  • หากคุณต้องการถอดอุปกรณ์ล็อกออกจากบัญชีของคุณ ขั้นตอนต่อไปนี้สามารถช่วยคุณได้:

    1. เปิดแอปพลิเคชั่น Yale Home และไปที่ล็อกที่ keychain
    2. ไปที่รายชื่อ guest และเลือก contact แล้วเลือกลบตนเอง

    คุณจะได้รับแจ้งให้ยืนยันว่าคุณต้องการลบผู้ใช้ ในกรณีนี้คือตัวคุณเอง ออกจากอุปกรณ์ดังกล่าว

    หากคุณต้องการลบอุปกรณ์ล็อกออกจากบัญชีของคุณ และคุณเป็นหนึ่งในเจ้าของอุปกรณ์ล็อก คุณสามารถเอาตัวเองออกได้โดยทำตามขั้นตอนด้านบนและเลือกลบผู้ใช้งาน คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้โดยมีเจ้าของอีกคนอยู่ในระบบ หากคุณเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวในการล็อก คุณจะต้อง  ทำการรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน .

    หากคุณต้องการถอดอุปกรณ์ล็อกออกจากบัญชีของคุณเพื่อให้คนอื่นสามารถติดตั้งได้ ให้ทำตามคำแนะนำที่  การคืนค่าล็อกให้เป็นการตั้งค่าจากโรงงาน .

  • หากแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนของคุณหมด คุณยังสามารถใช้ดอกกุญแจเพื่อปลดล็อกประตูได้ อีกวิธีหนึ่ง คุณยังสามารถเปิด-ปิดล็อกของคุณโดยลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณในขณะที่ใช้โทรศัพท์ของเพื่อน หรือเพื่อนบ้านได้

  • หากคุณประสบปัญหานี้ ให้ลองปิดแอปทั้งหมด เปิดใหม่ และเชื่อมต่อกับล็อกอีกครั้ง

  • หากคุณไม่เห็นอุปกรณ์ที่เคยติดตั้งในแอปของคุณ อาจเกิดจากสาเหตุสองประการ

    1. เจ้าของอุปกรณ์ลบคุณออก
    2. รีเซ็ตอุปกรณ์แล้ว

    เจ้าของอุปกรณ์ลบคุณออกโดยไม่ได้ตั้งใจ โปรดติดต่อเจ้าของเพื่อเพิ่มคุณอีกครั้ง อุปกรณ์ถูกรีเซ็ต คุณจะต้องทำตามขั้นตอนการตั้งค่าในแอปอีกครั้ง

  • Yale Locks ความเป็นเจ้าของมีสองแบบ: เจ้าของอุปกรณ์ล็อกและเจ้าของบ้าน เจ้าของสามารถเข้าถึง Smart Lock ได้ไม่จำกัด นั่นคือพวกเขาถูกระบุว่าเป็นเจ้าของอยู่ พวกเขายังสามารถตั้งค่าอุปกรณ์เสริม เช่น Yale Connect และ Keypad บนล็อกนั้นได้ รายละเอียดของ Lock Access Types มีระบุไว้ใน บทความนี้.

    ทำงานอย่างไร?

    เจ้าของบ้านสามารถตั้งค่าอุปกรณ์ Yale ใหม่และแก้ไขการตั้งค่า (ชื่อบ้าน รูปถ่าย และเพิ่ม/ลบเจ้าของบ้าน) สำหรับบ้านที่พวกเขาระบุว่าเป็นเจ้าของบ้าน ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มเจ้าของบ้านคนอื่น หรือเปลี่ยนแปลงเจ้าของบ้านที่มีอยู่ได้:

    1. เลือกคุณสมบัติจาก keychain
    2. ไปที่การตั้งค่า
    3. เลือกแก้ไขเจ้าของบ้าน
    4. เลือกหรือยกเลิกจากรายการเจ้าของบ้านที่มีอยู่เพื่อทำการเปลี่ยนแปลง

    หากคุณต้องการเพิ่มบุคคลใหม่ที่ยังไม่ได้เชื่อมโยงกับการอุปกรณ์ล็อก ให้ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ใน  บทความนี้.

  • การเปลี่ยนแปลงโปรไฟล์บ้าน เช่น ชื่อและรูปภาพ ในแอปพลิเคชั่น Yale Home นั้นทำได้ง่าย  คุณต้องมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า ในการแก้ไขชื่อคุณสมบัติ:

    1. เลือกคุณสมบัติจาก keychain
    2. ไปที่การตั้งค่า
    3. เลือกชื่อบ้านและรูปถ่าย
    4. ปรับปรุงชื่อบ้านที่จำเป็น
    5. ปิดแอปเพื่อสิ้นสุดการเปลี่ยนแปลง

    รายละเอียดเพิ่มเติม: เมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงแล้ว คุณจะต้องปิดแอปและเปิดใหม่อีกครั้งเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้น

  • คุณต้องเป็นเจ้าของอุปกรณ์ล็อกเพื่อเปลี่ยนแปลงชื่อในแอปพลิเคชั่น Yale Home ของคุณ ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อเปลี่ยนชื่อล็อกที่มีอยู่ในแอปพลิเคชั่น Yale Home ของคุณ:

    1. เปิดแอปพลิเคชั่น Yale Home
    2. เลือกบ้านที่ล็อกเชื่อมโยงกับจาก Keychain ของคุณ
    3. ไปที่การตั้งค่า
    4. เลือกอุปกรณ์
    5. เลือกชื่อล็อก
    6. เปลี่ยนชื่อล็อกในฟิลด์ที่ให้ไว้

    รายละเอียดเพิ่มเติม: เมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงแล้ว คุณจะต้องปิดแอปและเปิดใหม่อีกครั้งเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้น

  • การอัปเดตชื่อบ้านและรูปถ่ายเป็นเรื่องง่ายและทำได้โดยใช้แอป Yale Home คุณต้องเป็นเจ้าของเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า หลังจากที่คุณได้ตั้งค่าอุปกรณ์อย่างน้อยหนึ่งเครื่องในบัญชีของคุณแล้ว ให้เลือกทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจากรายการใน keychain จากนั้นไปที่การตั้งค่า → ชื่อบ้านและรูปถ่าย เลือกเครื่องหมายบวกเหนือรูปภาพและเลือกระหว่าง: 1) เลือกรูปภาพจากคลังภาพ; หรือ 2) ถ่ายภาพ ทำตามคำแนะนำในแอป ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเพิ่มรูปภาพอย่างไร?เพื่อทำตามขั้นตอนให้เสร็จสิ้น

    รายละเอียดเพิ่มเติม: เมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงแล้ว คุณจะต้องปิดแอปและเปิดใหม่อีกครั้งเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้น

  • การเปลี่ยนแปลงเครือข่ายส่งผลต่ออุปกรณ์ Yale ของคุณ ตัวอย่างเช่น หากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณเปลี่ยนแปลงหรือคุณเปลี่ยนโมเด็ม Wi-Fi คุณจะต้องอัปเดตข้อมูลเครือข่าย เช่น รหัสผ่านหรือชื่อเครือข่าย เพื่อให้อุปกรณ์บางตัวของคุณทำงานต่อไป คำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับการอัปเดตการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ รวมถึงอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มีระบุไว้ใน  บทความนี้.

การใช้งาน

  • การแจ้งเตือนของ Door Ajar จะแจ้งเตือนเมื่อประตูของคุณถูกเปิดทิ้งไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง

    ในการตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Door Ajar คุณจะต้องมี Yale Home Smart Lock ติดตั้งพร้อมกับ Yale Connect Bridge สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการติดตั้ง DoorSense โปรดดูคู่มือการติดตั้ง DoorSense:

    ติดตั้งอย่างไร: DoorSense

    วิธีสร้างการแจ้งเตือนแบบ Door Ajar Notifications (iOS)

    ขั้นตอนแรกในการตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Door Ajar คือการตั้งค่า Door Ajar Timing การเพิ่มเวลา สามารถเลือกกำหนดระยะเวลาเปิดประตูได้ก่อนที่คุณจะได้รับการแจ้งเตือน  

    การตั้งค่า Door Ajar Timing: 

    1. เปิดแอปพลิเคชั่น Yale Home
    2. ไปที่ Door Sense ในการตั้งค่าล็อก  
    3. แตะที่ Door Ajar timing 
    4. กำหนดระยะเวลา

    หลังจากตั้งค่า Door Ajar Timing คุณต้องตั้งค่า Smart Alert เพื่อรับการแจ้งเตือน  

    การตั้งค่า Smart Alert:

    1. ไปที่หน้า Smart Alerts page ในส่วนการแจ้งเตือนเลือก your lock settings page  
    2. แตะ“Create a Smart Alert” followed by “Choose an Event”.

    เลือก event “the door is left ajar” และเลือก “Done”. ท้ายที่สุด แตะ “Save”

    คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่เปิดประตูทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุใน Door Ajar Timing

    วิธีสร้างการแจ้งเตือน Door Ajar Notifications (Android)

    ขั้นตอนแรกในการตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Door Ajar คือการตั้งค่า Door Ajar Timing การเพิ่มเวลา สามารถเลือกกำหนดระยะเวลาเปิดประตูได้ก่อนที่คุณจะได้รับการแจ้งเตือน  

    การตั้งค่า Door Ajar Timing: 

    1. เปิดแอปพลิเคชั่น Yale Home
    2. ไปที่ Door Sense ในการตั้งค่าล็อก  
    3. แตะที่ Door Ajar timing 
    4. กำหนดระยะเวลา

    หลังจากตั้งค่า Door Ajar Timing คุณต้องตั้งค่า Smart Alert เพื่อรับการแจ้งเตือน  

    การตั้งค่า Smart Alert:

    1. ไปที่หน้า Smart Alerts page ในส่วนการแจ้งเตือนเลือก your lock settings page  
    2. แตะ“Create a Smart Alert” followed by “Choose an Event”.

    เลือก event “the door is left ajar” และเลือก “Done”. ท้ายที่สุด แตะ “Save”

    คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่เปิดประตูทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุใน Door Ajar Timing

  • แชร์กุญแจให้กับครอบครัว เพื่อน และบริการต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในรายชื่อติดต่อของคุณกับ Yale เพียงส่งคำเชิญให้แขกแต่ละคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น หลังจากทำเช่นนั้น พวกเขาจะสามารถเข้าถึงการเข้า-ออก บ้านของคุณได้ทันทีตามระดับการเข้าถึงที่คุณกำหนด หากพวกเขามีบัญชี Yale Home อยู่แล้ว key ของคุณจะปรากฏใน keychain ของพวกเขาหลังจากที่คุณส่งคำเชิญ ไปยังหมายเลขที่ระบุไว้ในบัญชี Yale Home ของพวกเขา

    อ่านบน iOS หรือ Android (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ) ด้านล่างเพื่อดูขั้นตอนในการเชิญผู้เยี่ยมชมให้ใช้ Yale Home Smart Lock ของคุณ

    iOS

    ในการเพิ่ม guest ก่อนอื่นให้ส่งคำเชิญ:

    1. เปิดแอป Yale Home แล้วเลือก  Guest Icon จากเมนูด้านล่างขวาของหน้าจอ
    2. เลือก Invite แล้วเลือก invite option ป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของแขกหรือเลือกจากรายชื่อผู้ติดต่อของคุณเพื่อเชิญให้ใช้ล็อกของคุณ
    3. เลือก Send Invite เมื่อคุณได้เพิ่มแขกของคุณและกำหนดระดับการเข้าถึงและประเภทของพวกเขาแล้ว มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับการเข้าถึง  ที่นี่.

    หลังจากที่คุณเชิญแขกเข้าร่วม Yale Assure ของคุณ พวกเขาจะได้รับข้อความแจ้งเตือนพร้อมลิงก์สำหรับดาวน์โหลดแอป Yale Home เมื่อผู้ได้รับเชิญดาวน์โหลดและเปิดแอป Yale Home พวกเขามีสามตัวเลือกในการเข้าสู่ระบบ แขกของคุณควรเลือกปุ่มสีน้ำเงินที่ระบุว่าฉันได้รับคำเชิญ การเลือกตัวเลือกนี้จะเพิ่มล็อกของคุณไปที่ keychain แขกของคุณจะถูกเพิ่มในรายชื่อ Guest และพวกเขาจะเห็นล็อกของคุณใน Keychain บน Yale Home App

    หากแขกของคุณเลือกตัวเลือกในการตั้งค่าอุปกรณ์การเข้าถึง YALE ครั้งแรก พวกเขาจะได้รับแจ้งเตือนผ่านขั้นตอนการตั้งค่าการล็อก แต่จะไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนให้เสร็จสิ้นได้ เนื่องจากอุปกรณ์เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณแล้ว

    ตัวเลือกสุดท้ายคือการลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีอยู่ ผู้ใช้ Yale Home ที่มีบัญชีกับอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงอยู่แล้วสามารถใช้ตัวเลือกนี้เพื่อเข้าสู่ระบบได้

    แขกสามารถเข้าถึง Yale Assure ได้อย่างจำกัด หากคุณต้องการให้สิทธิ์แก่ผู้อื่นมากขึ้น เช่น ล็อกอัตโนมัติหรือปลดล็อกอัตโนมัติ คุณสามารถอัปเกรดบุคคลเหล่านั้นเป็นสิทธิ์เข้าถึงระดับเจ้าของได้ หากต้องการเปลี่ยนการเข้าถึงของแขกเป็น Owner ให้ทำตามคำแนะนำที่ระบุไว้  ที่นี่.

    หากคุณมี Yale Home Keypad การออกรหัสสำหรับแขกของคุณก็ง่ายพอๆ กัน หากต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับ Entry Code invites โปรดคลิก  ที่นี่.

    Android

    ในการเพิ่ม guest ก่อนอื่นให้ส่งคำเชิญ:

    1. เปิดแอป Yale Home แล้วเลือก  Guest Icon จากเมนูด้านล่างขวาของหน้าจอ
    2. เลือก Invite แล้วเลือก invite option ป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของแขกหรือเลือกจากรายชื่อผู้ติดต่อของคุณเพื่อเชิญให้ใช้ล็อกของคุณ
    3. เลือก Send Invite เมื่อคุณได้เพิ่มแขกของคุณและกำหนดระดับการเข้าถึงและประเภทของพวกเขาแล้ว มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับการเข้าถึง  ที่นี่.

    หลังจากที่คุณเชิญผู้เยี่ยมชมเข้าสู่ Smart Lock ของคุณ พวกเขาจะได้รับข้อความแจ้งเตือนพร้อมลิงก์สำหรับดาวน์โหลดแอป Yale Home เมื่อผู้ได้รับเชิญดาวน์โหลดและเปิดแอป Yale Home พวกเขามีสามตัวเลือกในการเข้าสู่ระบบ แขกของคุณควรเลือกปุ่มสีน้ำเงินที่ระบุว่าฉันได้รับคำเชิญ การเลือกตัวเลือกนี้จะเพิ่มล็อกของคุณไปที่ keychain แขกของคุณจะถูกเพิ่มในรายชื่อ Guest และพวกเขาจะเห็นล็อกของคุณใน Keychain บน Yale Home App

    หากแขกของคุณเลือกตัวเลือกในการตั้งค่าอุปกรณ์การเข้าถึง YALE ครั้งแรก พวกเขาจะได้รับแจ้งเตือนผ่านขั้นตอนการตั้งค่าการล็อก แต่จะไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนให้เสร็จสิ้นได้ เนื่องจากอุปกรณ์เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณแล้ว

    ตัวเลือกสุดท้ายคือการลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีอยู่ ผู้ใช้ Yale Home ที่มีบัญชีกับอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงอยู่แล้วสามารถใช้ตัวเลือกนี้เพื่อเข้าสู่ระบบได้

    หากคุณต้องการเปลี่ยนการเข้าถึงของแขกเป็น Owner ให้ทำตามคำแนะนำที่ระบุไว้  ที่นี่.

    หากคุณมี Yale Home Keypad การออกรหัสสำหรับแขกของคุณก็ง่ายพอ ๆ กัน หากต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับ Entry Code invites โปรดคลิก  ที่นี่.

  • บทความนี้ให้ความรู้ของในขั้นตอนการถอดอุปกรณ์ล็อกออกจากบัญชีของคุณ รายละเอียดเพิ่มเติม: สถานะของคุณในฐานะ Owner หรือ Guest รวมถึงเหตุผลในการถอดอุปกรณ์ล็อก การกำหนดค่าในการถอดอุปกรณ์ออกจากบัญชีของคุณ อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับ Owner หรือ Guest (ขึ้นอยู่กับระดับการเข้าถึงของคุณ)

    เจ้าของอุปกรณ์

    หากคุณเป็นเจ้าของอุปกรณ์ล็อกและต้องการลบ เพราะคุณไม่ต้องการใช้งานอีกต่อไป คุณต้องรีเซ็ตให้เป็นค่าเริ่มต้นที่มาจากโรงงานเพื่อลบออกจากบัญชีของคุณ  ทำตามขั้นตอน คำแนะนำในการรีเซ็ตให้เป็นค่าของโรงงาน  เพื่อลบอุปกรณ์ดังกล่าวออกจากแอคเคาท์ของคุณ  การรีเซ็ตให้เป็นค่าเริ่มต้นนั้นจะนำบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกจากอุปกรณ์ด้วยเช่นกัน

    หากคุณเป็นเจ้าของเครื่องและจำเป็นต้องถอดอุปกรณ์ล็อกเพื่อติดตั้งกับประตูบานอื่น คุณจะต้องรีเซ็ตล็อกให้เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน เว้นแต่ว่าประตูจะอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หากคุณกำลังติดตั้งอุปกรณ์ล็อกในบ้านหลังเดียวกัน คุณสามารถถอดอุปกรณ์ล็อกออกจากประตูปัจจุบันและติดตั้งบนบานประตูใหม่โดยไม่ต้องรีเซ็ตเป็นค่าจากโรงงาน ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังติดตั้งสมาร์ทล็อก Yale ใหม่ที่ประตูหน้าของคุณ และคุณต้องการย้ายสมาร์ทล็อก Yale ที่มีอยู่ไปที่ประตูหลังของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนชื่อได้เลย ในกรณีนี้ คุณสามารถเปลี่ยนชื่อล็อกในบัญชีของคุณได้ดังนี้:

    1. เปิดแอปพลิเคชั่น Yale Home
    2. เลือกบ้านที่ล็อกเชื่อมโยงกับจาก Keychain ของคุณ
    3. ไปที่การตั้งค่า
    4. เลือกอุปกรณ์
    5. เลือกชื่อล็อก
    6. เปลี่ยนชื่อล็อกในฟิลด์ที่ให้ไว้

    หากคุณเป็นเจ้าของอุปกรณ์ล็อกและย้ายออกไปแล้วและคุณทิ้งอุปกรณ์ไว้ที่บ้านเดิมของคุณ คุณจะต้อง  ทำการรีเซ็ตค่าให้เป็นค่าโรงงานเดิม  เพื่อลบอุปกรณ์ออกจากบัญชีของคุณ

    Guests

    หากคุณเป็น Guest ที่ต้องการลบอุปกรณ์ออกจากบัญชีของคุณ:

    1. เปิดแอปพลิเคชั่น Yale Home
    2. เลือกล็อกจาก Keychain ของคุณ
    3. ไปที่ Guest List
    4. เลือก REMOVE SELF

    คุณจะได้รับแจ้งให้ยืนยันว่าคุณต้องการลบผู้ใช้ ในกรณีนี้คือตัวคุณเอง ออกจากอุปกรณ์ดังกล่าว

  • การกำหนดระดับการเข้า-ออก การกำหนดจำนวนการเข้าถึงของผู้ที่จะใช้งานระบบล็อก รวมทั้งเวลาที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้ควบคุมการล็อก

    Yale มี 2 ระดับการเข้าถึง: Owner(เจ้าของ) และ Guest(แขกผู้มาเยือน) เจ้าของเครื่องมีสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่และ Guests มีสิทธิ์เข้าถึงอย่างจำกัด (ระบุไว้ในระดับการเข้าถึง) เฉพาะเจ้าของเท่านั้นที่สามารถเชิญแขกให้เข้าร่วมได้ เมื่อเชิญ Guests แล้วคุณสามารถปรับแต่งระดับการเข้าถึงของพวกเขา และเลือกรับการแจ้งเตือนเมื่อพวกเขาใช้งานอุปกรณ์ล็อกของคุณ

    นอกจากนี้ยังมีตารางการเข้าถึงที่แตกต่างกัน: Always, Recurring, and Temporary (ระบุไว้ในตารางการเข้าถึง)

    เจ้าของอุปกรณ์

    เจ้าของล็อกคือผู้ใช้ที่:

    1. สามารถล็อกและปลดล็อกประตูผ่านแอป Yale
    2. สามารถล็อกและปลดล็อกด้วยรหัสส่วนตัว (โดยใช้ Smart Keypad)
    3. ใช้ปลดล็อกอัตโนมัติได้
    4. สามารถเชิญ/ลบเจ้าของรายอื่นได้
    5. สามารถควบคุมการตั้งค่าการล็อกทั้งหมดได้
    6. สามารถดูฟีดกิจกรรม
    7. สามารถดูรายชื่อแขกได้

    Access Schedules

    Always - แขกจะมีสิทธิ์เข้าถึงได้ไม่จำกัด แต่เจ้าของสามารถเปลี่ยนแปลงหรือลบการเข้าถึงได้ทุกเมื่อ

    Recurring - แขกจะได้รับการเข้าถึงตามกำหนดเวลาที่ทำซ้ำ เช่นจะได้รับเชิญทุกวันอังคาร หรือในช่วงเวลาสั้น ๆ

    Temporary - แขกจะได้รับคำเชิญแบบจำกัด ซึ่งคำเชิญดังกล่าวจะถูกจำกัดด้วยกรอบเวลาและมีวันหมดอายุ กล่าวคือ แขกจะมีสิทธิ์เข้าถึงแบบใช้ครั้งเดียว โดยจำกัดวันที่และเวลาที่คุณเลือกไว้

    Guests

    แขกผู้มาเยือนมีระดับการเข้าถึงสำหรับค่าเริ่มต้นสำหรับทุกคนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม Yale Smart Lock แต่คุณสามารถอัปเกรดระดับการเข้าถึงหลังจากนั้น Guest users:

    1. สามารถล็อกและปลดล็อกประตูผ่านแอป Yale*
    2. สามารถล็อกและปลดล็อกด้วยรหัสส่วนตัว (โดยใช้ Smart Keypad)
    3. ไม่สามารถใช้ปลดล็อกอัตโนมัติได้
    4. ไม่สามารถเชิญ/ลบเจ้าของรายอื่นได้
    5. ไม่สามารถควบคุมการตั้งค่าล็อกทั้งหมดได้
    6. ดูฟีดกิจกรรมไม่ได้
    7. ดูรายชื่อแขกไม่ได้

    *จำเป็นต้องใช้ข้อมูลมือถือหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจากตารางการเข้าใช้งานของแขก 3 แห่ง เซิร์ฟเวอร์ของเราจำเป็นต้องตรวจสอบว่าแขกกำลังเชื่อมต่อในช่วงเวลาที่พวกเขาได้รับอนุญาต

    Access Schedules

    Always - แขกจะมีสิทธิ์เข้าถึงได้ไม่จำกัด แต่เจ้าของสามารถเปลี่ยนแปลงหรือลบการเข้าถึงได้ทุกเมื่อ

    Recurring - แขกจะได้รับการเข้าถึงตามกำหนดเวลาที่ทำซ้ำ เช่นจะได้รับเชิญทุกวันอังคาร หรือในช่วงเวลาสั้น ๆ

    Temporary - แขกจะได้รับคำเชิญแบบจำกัด ซึ่งคำเชิญดังกล่าวจะถูกจำกัดด้วยกรอบเวลาและมีวันหมดอายุ กล่าวคือ แขกจะมีสิทธิ์เข้าถึงแบบใช้ครั้งเดียว โดยจำกัดวันที่และเวลาที่คุณเลือกไว้

  • คุณสมบัติล็อกอัตโนมัติช่วยให้ประตูของคุณล็อกอัตโนมัติหลังจากเวลาผ่านไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ (สูงสุด 30 นาที)  

    ในการเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ คุณต้องเป็นเจ้าของที่ได้รับอนุญาตและอยู่ในระยะ Bluetooth ของล็อกที่คุณเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้

    รายละเอียดเพิ่มเติม: หากคุณต้องการใช้  คุณสมบัติ Auto-Lock Timing เพื่อควบคุมให้ประตูล็อกหลังจากปิด  คุณต้องติดตั้ง DoorSense หากไม่มี DoorSense ประตูจะล็อคอัตโนมัติ หลังจากปิดเมื่อเปิดใช้งานการล็อกอัตโนมัติ

    วิธีเปิดใช้งานล็อกอัตโนมัติบน iOS

    ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยคุณตั้งค่าคุณสมบัติล็อกอัตโนมัติบนอุปกรณ์ iOS ของคุณ:1

    1. เปิดแอป Yale Home และเลือกคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องจาก keychain หากมีมากกว่าหนึ่ง
    2. แตะ  ไอคอนการตั้งค่า Gear ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ
    3. เลือกล็อกจากอุปกรณ์ที่แสดง
    4. เลือก Auto-Lock ซึ่งแสดงอยู่ในเมนูการทำงานอัตโนมัติ
    5. สลับ Enable Auto-Lock  เปิดและตั้งค่า Auto-Lock Timing
    6. เลือก Save Changes ที่ด้านล่าง

    ทำตามขั้นตอนเพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติล็อกอัตโนมัติบน Yale Home Smart Lock ของคุณให้เสร็จสิ้น ล็อกของคุณจะล็อกอัตโนมัติหลังจากระยะเวลาที่ตั้งไว้ใน Auto-Lock Timing

    ในทางกลับกัน หากคุณต้องการปิดใช้งานคุณสมบัติล็อกอัตโนมัติ ให้ทำตามขั้นตอนด้านบนและสลับ Enable Auto-Lock เพื่อปิด คุณต้องอยู่ในระยะการล็อกของบลูทูธเพื่อปิดใช้งานคุณลักษณะนี้

    วิธีเปิดการใช้งานล็อกอัตโนมัติบน Android

    ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยคุณตั้งค่าคุณสมบัติล็อกอัตโนมัติบนอุปกรณ์ Android ของคุณ:

    1. เปิดแอป Yale Home และเลือกคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องจาก keychain หากมีมากกว่าหนึ่ง
    2. แตะ Settings Gear Icon ที่มุมขวาบนของหน้าจอ
    3. เลือกล็อกจากอุปกรณ์ที่แสดง
    4. เลือก Auto-Lock ซึ่งแสดงอยู่ในเมนูการทำงานอัตโนมัติ
    5. สลับ Enable Auto-Lock เปิดและตั้งค่า Auto-Lock Timing
    6. เลือก Save Changes ที่ด้านล่าง

    ทำตามขั้นตอนเพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติล็อกอัตโนมัติบน Yale Home Smart Lock ของคุณให้เสร็จสิ้น ล็อกของคุณจะล็อกอัตโนมัติหลังจากระยะเวลาที่ตั้งไว้ใน Auto-Lock Timing

    ในทางกลับกัน หากคุณต้องการปิดใช้งานคุณสมบัติล็อกอัตโนมัติ ให้ทำตามขั้นตอนด้านบนและสลับ  Enable Auto-Lock เพื่อปิด คุณต้องอยู่ในระยะการล็อกของบลูทูธเพื่อปิดใช้งานคุณลักษณะนี้

  • ปฏิบัติตามลำดับต่อไปนี้เมื่อต้องการที่จะตั้งค่าโมดูล Yale Home และ HomeKit:

    1. ดาวน์โหลดแอป Yale Home
    2. ติดตั้งอุปกรณ์ล็อกที่ประตูของคุณ
    3. ติดตั้ง Yale Home Module ในอุปกรณ์ล็อกของคุณ
    4. การกำหนดค่าการทำงานระหว่าง HomeKit และ Yale Home App โดยใช้รหัส QR ที่อยู่ในแผ่นพับ ข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ มาพร้อมกับ Yale Home Module ของคุณ
    5. ตั้งค่าอุปกรณ์ใน Home app เพื่อทำการเชื่อต่อให้สมบูรณ์

    รายละเอียดเพิ่มเติม: คุณจะไม่สามารถตั้งค่า HomeKit ได้ เว้นแต่โมดูลจะถูกติดตั้งอยู่ในตัวเครื่องแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รหัส QR code รวมอยู่ในข้อกำหนดและเงื่อนไขในบรรจุภัณฑ์ ข้อกำหนดและเงื่อนไขอยู่ใน QR code เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต

    ขั้นตอนในการตั้งค่า HomeKit สำหรับ Yale Home Lock

    ตรวจสอบว่าเปิดใช้งานการตั้งค่าที่เหมาะสมบนโทรศัพท์ของคุณ

    เปิดการตั้งค่า (ไม่ใช่ Yale Home) แล้วตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้:

    • ที่ด้านบนสุดของแอพการตั้งค่า ให้แตะชื่อของคุณ → iCloud → ตรวจสอบให้ แน่ใจว่าหน้า Home เปิดใช้งานและ Keychain แสดงเครื่องหมาย On
      • หากคุณจะใช้ HomeKit จากระยะไกล (โดยใช้ Apple TV, iPad หรือ Homepod) คุณต้องเปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองแบบ หากต้องการนำทางจากที่นี่ ให้ย้อนกลับไปที่หน้าจอแล้วเลือก Password & Security
    • แตะปุ่มย้อนกลับบนซ้าย (ข้อความระบุว่า Apple ID) → แตะปุ่มซ้ายบนเป็นครั้งที่สอง (ข้อความระบุว่าการตั้งค่า) → เลื่อนลงและค้นหาความเป็นส่วนตัว →  HomeKit → ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งาน Yale Home แล้ว
    • แตะปุ่มย้อนกลับบนซ้าย (ข้อความระบุว่าความเป็นส่วนตัว) →แตะปุ่มซ้ายบนเป็นครั้งที่สอง (ข้อความระบุว่าการตั้งค่า) → เลื่อนลงไปที่ Yale Home → ตรวจสอบ  Home Data เปิดการใช้งาน
    เริ่มการตั้งค่า HomeKit

    คุณจะต้องยืนอยู่ใกล้ ๆ บริเวณล็อกของคุณและเปิดการใช้งาน Bluetooth

    เปิด Yale Home app → นำทางไปยัง Lock Status หน้าจอ (วงกลมสีแดง/เขียว/เทา) → แตะ  Settings gear ไอคอนที่ด้านล่างขวาของหน้าจอ →  Lock Settings → HomeKit settings → Select เปิดใช้งาน Siri ที่ด้านล่าง

    ทำตามคำแนะนำในแอป

    ตั้งค่า HomeKit แล้ว

    HomeKit ได้รับการตั้งค่าของคุณแล้ว  เราขอแนะนำให้ไปที่แอปของผู้ผลิตอุปกรณ์ล็อกและ Home app เพื่อทดสอบความสามารถในการใช้งานการอุปกรณ์ล็อกของคุณภายในระยะ Bluetooth และจากระยะไกลหากคุณมี Home Bridge ที่จับคู่ไว้

    • Home bridge ต้องอยู่ภายในช่วงบลูทูธสำหรับการเข้าถึงจากระยะไกล

    หากคุณมีปัญหาใด ๆ โปรดติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าของเรา

  • หากคุณมี Smart Lock ที่เปิดใช้งาน HomeKit คุณสามารถเพิ่มเจ้าของใหม่และให้สิทธิ์การเข้าถึง HomeKit พร้อมกันได้

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแชร์การเข้าถึง HomeKit กับผู้ใช้รายอื่น โปรดดูที่  บทความนี้.

  • ปลดล็อกอัตโนมัติทันทีที่คุณกลับถึงบ้าน โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์หรือกุญแจ

    Yale Home มี 2 สถานะเพื่อเปิดใช้งานการปลดล็อกอัตโนมัติ:  Home mode, และ Away mode. โหมดเหล่านี้บ่งบอกว่าคุณอยู่ที่ใด: ที่บ้าน หรือนอกบ้าน

    เมื่อคุณอยู่บ้าน ( Home mode), ปลดล็อกอัตโนมัติ หรือรอจนกว่าคุณจะออกจากบ้าน

    เมื่อคุณเข้าใกล้ประตู ระบบจะปลดล็อกอัติโนมัติด้วยสัญญาณจากบลูทูธ นั่นหมายความว่าระบบจะไม่ปลดล็อกเมื่อคุณอยู่ห่างจากบ้านมากเกินไป

    เมื่อคุณออกจากพื้นที่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร หรือสองสามช่วงตึก ระบบจะใช้งานได้เมื่อคุณกลับมายังพื้นที่ละแวกใกล้เคียงบ้าน

    เคล็ดลับสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการปลดล็อกอัตโนมัติ

    เปิด Wi-Fi และ Bluetooth ทิ้งไว้

    • ต้องเปิดการใช้งาน Wi-Fi และ Bluetooth ทิ้งไว้เพื่อให้การใช้งานปลดล็อกอัตโนมัติได้ โทรศัพท์ของคุณต้องใช้ Wifi และ Bluetooth และต้องระบุตำแหน่งของคุณด้วยเสมอ หากตำแหน่งของคุณไม่ถูกต้อง การปลดล็อกอัตโนมัติจะทำงานไม่ถูกต้องหรือไม่ทำงานเลย

    ประโยชน์จากการแจ้งเตือน

    • จากค่าเริ่มต้น การปลดล็อกอัตโนมัติจะแจ้งให้คุณทราบเมื่ออยู่ในโหมด "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" ซึ่งจะช่วยให้คุณคาดการณ์พฤติกรรมการปลดล็อกอัตโนมัติได้ ขอแนะนำให้เปิดการแจ้งเตือนเหล่านี้ไว้
    • นอกจากนี้ คุณจะได้รับแจ้งเตือนหากเกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ที่ทำให้การปลดล็อกอัตโนมัติทำงานไม่ถูกต้อง

    สำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: เข้า-ออกผ่านประตูที่ติดตั้ง Yale Home Smart Lock ไว้

    • หากคุณไม่ได้เปิดการใช้งานการปลดล็อกอัตโนมัติ ระบบยังคงพยายามที่จะปลดล็อกประตูดังกล่าวในครั้งต่อไป หากคุณมีบ้านหลังใหญ่ อาจใช้เวลาดำเนินการเพียงไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมงให้หลัง

    ปล่อยให้แอป Yale Home ทำงาน - อย่าบังคับปิด

    • การบังคับออกจากแอป Yale Home จะทำให้แอปติดตามสถานะ "อยู่บ้าน" หรือ "ไม่อยู่บ้าน" ของคุณใช้งานไม่ได้ หากสิ่งนี้เกิดขึ้น แอปพลิเคชั่นจะ  ไม่ พยายามปลดล็อกประตูอัตโนมัติ

    อย่าปิดโทรศัพท์มือถือเมื่อคุณไม่อยู่บ้าน

    • การปิดโทรศัพท์ของคุณจะทำให้แอป Yale Home สูญเสียการติดตามสถานะอยู่บ้านหรือไม่อยู่บ้านของคุณ หากสิ่งนี้เกิดขึ้น แอปพลิเคชั่นจะ  ไม่ พยายามปลดล็อกประตูอัตโนมัติ

    อธิบายโหมดอยู่บ้านและไม่อยู่บ้าน

    1. Home Mode

    ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

    นั่นหมายถึงอะไร?

    คุณถูกสันนิษฐานว่าคุณอยู่ที่บ้าน และการปลดล็อกโดยอัตโนมัติไม่ทำงานใด ๆ

    เปิดใช้งานอย่างไร?

    Automatically
    เมื่อคุณอยู่ใน Home mode หลังจากปลดล็อคอัตโนมัติสำเร็จตัวเครื่องจะปลดล็อกเมื่อคุณกลับถึงบ้าน

    Manually
    คุณณสามารถกำหนดให้ตัวเองอยู่ใน Home mode ได้โดยไปที่การตั้งค่า Auto-Unlock Settings > Advanced Settings, and switching from Away mode to Home mode.

    Errors
    ในกรณีที่ไม่สามารถระบุสถานะของคุณได้ การปลดล็อกอัตโนมัติอาจกลับสู่ Home mode โดยค่าเริ่มต้น กรณีเหล่านี้รวมถึง:

    • โทรศัพท์ของคุณรีสตาร์ท
    • แอป Yale Home ถูกบังคับออก
    2. โหมดไม่อยู่บ้าน

    โทรศัพท์ของคุณจะพยายามปลดล็อคในครั้งต่อไปหากคุณอยู่ใกล้

    นั่นหมายถึงอะไร?

    สันนิษฐานได้ว่าคุณต้องการออกจากบ้าน การปลดล็อกอัตโนมัติจะเชื่อมต่อกับสัญญาณบลูทูธ และพยายามปลดล็อกประตูหากคุณอยู่ห่างจากล็อกในระยะ 3 - 4.5 เมตร การเชื่อมต่อนี้ไม่ได้ใช้พลังงานแบตเตอรี่มากเกินไป

    เปิดใช้งานอย่างไร?

    Automatically
    คุณจะอยู่ใน Away mode เมื่อโทรศัพท์คุณไม่อยู่บริเวณบ้าน โดยทั่วไปจะอยู่ห่างจาก Yale Home Smart Lock ประมาณ 200 เมตร หรือสองสามช่วงตึกในเมือง

    Manually
    คุณสามารถกำหนดให้ตัวเองอยู่ใน Away mode ได้โดยไปที่การตั้งค่า ปลดล็อกอัตโนมัติ > การตั้งค่าขั้นสูง และเปลี่ยนจาก Home mode เป็น Away mode

    • PLEASE NOTE: หากคุณยืนอยู่ใกล้ Yale Home Smart Lock เมื่อเข้าสู่ Away mode ล็อกของคุณควรปลดล็อคภายในไม่กี่วินาที นี่เป็นการคาดการณ์ได้และจะเกิดขึ้นเพียงเพราะคุณอยู่ใกล้ล็อกของคุณ สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นเมื่อคุณไม่อยู่บ้าน

    Errors
    หากคุณอยู่ใน Home mode โดยอัตโนมัติเนื่องจากการเกิดข้อผิดพลาดบางประการ โดยปกติแล้วคุณจะมีตัวเลือกให้เข้าสู่ Away mode อีกครั้ง

    การแก้ไขปัญหา

    1. ประตูของฉันไม่ปลดล็อกเมื่อฉันมาถึง

    คุณยังห่างไกลจากบ้านเกินไป

    • ในการเข้าสู่ Away mode คุณต้องไปไกลกว่า 200 เมตรหรือสองสามช่วงตึก จากนั้นระบบจะปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อคุณกลับถึงบ้าน
    • คุณสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าการปลดล็อกอัตโนมัติจะแจ้งเตือน การตั้งค่าการแจ้งเตือนการปลดล็อกอัตโนมัติสามารถพบได้ใน Lock Settings > Auto-Unlock.

    Auto-Unlock อาจสามารถเปลี่ยนไปสู่ Home mode ได้เนื่องจากข้อผิดพลาดบางประการ

    • กรณีเหล่านี้ส่วนใหญ่จะส่งการแจ้งเตือนถึงคุณพร้อมตัวเลือกในการแก้ไขปัญหาก่อนที่คุณจะกลับบ้าน สาเหตุรวมถึง:
    • โทรศัพท์ของคุณถูกรีสตาร์ท
    • แอป Yale Home ถูกบังคับออก
    • เกิดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อกับล็อกของคุณ

    2. ประตูปลดล็อกเมื่อฉันไม่ได้คาดหวัง

    • การปลดล็อกอัตโนมัติไม่ถูกต้อง คิดว่าคุณออกจากบ้าน
    • หากคุณมี Wi-Fi หรือการเชื่อมต่อมือถือที่แย่มาก โทรศัพท์ของคุณใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อระบุตำแหน่งปัจจุบันของคุณ
    • ตำแหน่งล็อกของคุณถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ใน Auto-Unlock Settings > Advanced Settings.
    • ปลดล็อกอัตโนมัติไม่เห็นการล็อกของคุณเมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน
    • คุณเข้ามาทางประตูอื่นนอกเหนือจากที่เปิดใช้งานการปลดล็อกอัตโนมัติ
    • บลูทูธของคุณปิดอยู่เมื่อคุณกลับถึงบ้าน
    • แบตเตอรี่ของคุณเหลือน้อยมาก

    Yale Home ใช้ข้อมูลตำแหน่งของฉันอย่างไร?

    ข้อมูลตำแหน่งของคุณจะถูกเก็บไว้ในโทรศัพท์ของคุณภายในแอป Yale Home เท่านั้น Yale จะไม่รวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลของคุณจากระยะไกล และไม่สามารถที่จะดูข้อมูลตำแหน่งของคุณได้ ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดูใน Privacy Policy.

  • ปลดล็อกอัตโนมัติทันทีที่คุณกลับถึงบ้าน โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์หรือกุญแจ

    Yale Home มี 2 สถานะเพื่อเปิดใช้งานการปลดล็อกอัตโนมัติ:  Home mode, และ Away mode. โหมดเหล่านี้บ่งบอกว่าการปลดล็อกอัตโนมัติสามารถรู้ว่าคุณอยู่ที่ใด: ที่บ้านหรือนอกบ้าน

    เมื่อคุณอยู่บ้าน ( Home mode), ปลดล็อกอัตโนมัติ หรือรอจนกว่าคุณจะออกจากบ้าน

    เมื่อคุณเข้าใกล้ประตู ระบบจะปลดล็อกอัติโนมัติด้วยสัญญาณจากบลูทูธ นั่นหมายความว่าระบบจะไม่ปลดล็อกเมื่อคุณอยู่ห่างจากบ้านมากเกินไป

    เมื่อคุณออกจากพื้นที่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร หรือสองสามช่วงตึก ระบบจะใช้งานได้เมื่อคุณกลับมายังพื้นที่ละแวกใกล้เคียงบ้าน

    เคล็ดลับสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการปลดล็อกอัตโนมัติ

    เปิด Wi-Fi และ Bluetooth ทิ้งไว้

    • ต้องเปิดการใช้งาน Wi-Fi และ Bluetooth ทิ้งไว้เพื่อให้การใช้งานปลดล็อกอัตโนมัติได้ โทรศัพท์ของคุณต้องใช้ Wifi และ Bluetooth และต้องระบุตำแหน่งของคุณด้วยเสมอ หากตำแหน่งของคุณไม่ถูกต้อง การปลดล็อกอัตโนมัติจะทำงานไม่ถูกต้องหรือไม่ทำงานเลย

    เปิดบริการ location services เป็น ON

    • ปลดล็อกอัตโนมัติโดยใช้ตำแหน่งของโทรศัพท์เพื่อระบุว่าคุณอยู่ระยะใกล้บ้าน ต้องเปิดใช้บริการ Location services เพื่อให้ปลดล็อกอัตโนมัติทำงานได้อย่างถูกต้อง

    Location permission (Android 10 ขึ้นไป)

    • ตั้งค่าอนุญาตระบุตำแหน่งเป็น "ตลอดเวลา"

    ใช้ประโยชน์จากการแจ้งเตือน

    • Android 8 ขึ้นไป ใช้การแจ้งเตือนเพื่อเป็นการเชื่อมต่อเกี่ยวกับการปลดล็อกอัตโนมัติ สามารถเปิดการแจ้งเตือนสำหรับ Android เวอร์ชั่นก่อนหน้าได้ในการตั้งค่า

    เปิดและใช้แอป Yale Home อย่างน้อยวันละครั้ง

    • สิ่งนี้จะสอนระบบปฏิบัติการว่า Yale Home App เป็นแอปพลิเคชั่นที่ใช้กันทั่วไป

    อนุญาตแอป Yale Home สำหรับโหมดประหยัดแบตเตอรี่ (Android 9)

    • การรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยการอนุญาตพิเศษให้แอป Yale Home จากหน้าจอหลัก ให้ไปที่การตั้งค่า > Apps > Yale Home > Battery > Optimize Battery Usage
    • รายละเอียดเพิ่มเติม: ขั้นตอนเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น  บทความนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทรศัพท์บางรุ่น

    สำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: เข้าและออกผ่านประตูที่ติดตั้ง Yale Home Smart Lock ไว้

    • หากคุณไม่ได้เปิดการใช้งานการปลดล็อกอัตโนมัติ ระบบยังคงพยายามที่จะปลดล็อกประตูดังกล่าวในครั้งต่อไป หากคุณมีบ้านหลังใหญ่ อาจใช้เวลาดำเนินการเพียงไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมงให้หลัง
    • หากคุณวางแผนที่จะเข้าผ่านประตูอื่น คุณสามารถยกเลิกการปลดล็อกอัตโนมัติผ่านการแจ้งเตือนที่ปรากฏขึ้นเมื่อคุณเข้าใกล้พื้นที่บ้านของคุณ

    อธิบายโหมดอยู่บ้านและไม่อยู่บ้าน

    1. Home Mode

    ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

    นั่นหมายถึงอะไร?

    คุณถูกสันนิษฐานว่าคุณอยู่ที่บ้าน และการปลดล็อกโดยอัตโนมัติไม่ทำงานใด ๆ

    เปิดใช้งานอย่างไร?

    Automatically
    เมื่อคุณอยู่ใน Home mode หลังจากปลดล็อคอัตโนมัติสำเร็จตัวเครื่องจะปลดล็อกเมื่อคุณกลับถึงบ้าน

    2. โหมดไม่อยู่บ้าน

    โทรศัพท์ของคุณจะพยายามปลดล็อคในครั้งต่อไปหากคุณอยู่ใกล้ หากคุณต้องการให้แน่ใจว่าประตูของคุณล็อกอยู่ โปรด ตั้งค่าล็อกอัตโนมัติ .

    นั่นหมายถึงอะไร?

    สันนิษฐานได้ว่าคุณออกจากบ้านแล้ว เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านของคุณ

    เปิดใช้งานอย่างไร?

    Automatically
    คุณจะอยู่ใน Away mode เมื่อโทรศัพท์คุณไม่อยู่บริเวณบ้าน โดยทั่วไปจะอยู่ห่างจาก Yale Home Smart Lock ประมาณ 200 เมตร หรือสองสามช่วงตึกในเมือง

    Manually
    หากคุณได้ระงับการปลดล็อกอัตโนมัติไว้ คุณสามารถเปิดใช้งานได้อีกครั้งเพียงแค่เปิดแอป Yale Home

    การแก้ไขปัญหา

    1. ประตูของฉันไม่ปลดล็อกเมื่อฉันมาถึง

    คุณยังห่างไกลจากบ้านเกินไป

    • ในการเข้าสู่ Away mode คุณต้องไปไกลกว่า 200 เมตรหรือสองสามช่วงตึก จากนั้นระบบจะปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อคุณกลับถึงบ้าน
    • คุณสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าการปลดล็อกอัตโนมัติจะแจ้งเตือน การตั้งค่าการแจ้งเตือนการปลดล็อกอัตโนมัติสามารถพบได้ใน Lock Settings > Auto-Unlock.

    2. ประตูปลดล็อกเมื่อฉันไม่ได้คาดหวัง

      • การปลดล็อกอัตโนมัติไม่ถูกต้อง คิดว่าคุณออกจากบ้าน
      • หากคุณมี Wi-Fi หรือการเชื่อมต่อมือถือที่แย่มาก โทรศัพท์ของคุณใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อระบุตำแหน่งปัจจุบันของคุณ
      • ปลดล็อกอัตโนมัติไม่เห็นการล็อกของคุณเมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน
      • คุณเข้ามาทางประตูอื่นนอกเหนือจากที่เปิดใช้งานการปลดล็อกอัตโนมัติ
      • บลูทูธของคุณปิดอยู่เมื่อคุณกลับถึงบ้าน
      • แบตเตอรี่ของคุณเหลือน้อยมาก

      Yale Home ใช้ข้อมูลตำแหน่งของฉันอย่างไร?

      ข้อมูลตำแหน่งของคุณจะถูกเก็บไว้ในโทรศัพท์ของคุณภายในแอป Yale Home เท่านั้น Yale จะไม่รวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลของคุณจากระยะไกล และไม่สามารถที่จะดูข้อมูลตำแหน่งของคุณได้ ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดูใน Privacy Policy.

    • Yale Home มี 2 วิธีในการเปิด-ปิด Owner(เจ้าของ) และ Guest(แขกผู้มาเยือน) แขกผู้มาเยือนคือระดับการเข้าถึงเริ่มต้นสำหรับทุกคนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม Yale Home Yale Assure ของคุณ แต่คุณสามารถอัปเกรดได้เมื่อใดก็ได้หลังจากนั้น

      อ่านบน iOS หรือ Android (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ) เพื่อดูขั้นตอนในการเปลี่ยนระดับการเข้าถึง

      iOS

      เปลี่ยนจาก Guest ไป Owner

      1. เปิดแอป Yale Home แล้วเลือกไอคอน Guest จากด้านล่างขวาในเมนู
      2. เลือก Guest ที่คุณต้องการแก้ไข
      3. เลือก Owner เพื่อเปลี่ยนระดับการเข้าถึงจาก  Guest ไป Owner
      4. เครื่องหมายถูกสีน้ำเงินจะแสดงข้างการเลือกของคุณ
      5. เลือกลูกศรเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง

      ขณะนี้แขกผู้มาเยือนของคุณเป็นเจ้าของ และจะแสดงความเป็นเจ้าของในรายชื่อแขกของคุณ

      คุณสามารถเปลี่ยนระดับการเข้าถึงให้กลับไปเป็นแขกผู้มาเยือนเมื่อใดก็ได้โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้อีกครั้งและเลือก Guest จาก Access Level options.

      Android

      เปลี่ยนจาก Guest ไป Owner

      1. เปิดแอป Yale Home แล้วเลือกไอคอน Guest จากด้านล่างขวาในเมนู
      2. เลือก Guest ที่คุณต้องการแก้ไข
      3. เปลี่ยนแปลง Access Level จาก Guest ไป Owner
      4. เลือก "Save Changes" ที่ด้านล่างของหน้าจอเพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ

      ขณะนี้แขกผู้มาเยือนของคุณเป็นเจ้าของ และจะแสดงความเป็นเจ้าของในรายชื่อแขกของคุณ

      คุณสามารถเปลี่ยนระดับการเข้าถึงให้กลับไปเป็นแขกผู้มาเยือนเมื่อใดก็ได้โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้อีกครั้งและเลือก Guest จาก Access Level options.

    • Yale Assure มี 3 วิธีในการเปิด-ปิด: เสมอ ๆ, ชั่วคราว, และเกิดซ้ำ คุณสามารถเลือกประเภทการเข้าถึงได้สามประเภทเมื่อเพิ่ม guests ไปยัง Yale Home Smart Lock ของคุณ

      คุณสามารถแก้ไขประเภทการเข้าถึง guests ที่มีอยู่ในรายชื่อ guests หรือตั้งค่าเมื่อคุณเชิญ guests ใหม่

      • Always - แขกผู้มาเยือนสามารถเข้าถึงได้แบบไม่จำกัด และเจ้าของสามารถเปลี่ยนหรือลบการเข้าถึงได้ตลอดเวลา
      • Recurring - แขกผู้มาเยือนมีเวลาเข้าใช้งานตามเวลาที่กำหนด ตัวอย่างเช่น guests จะได้ใช้งานได้ทุกเช้าวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ เวลา 8.00 น. ถึง 10.00 น.
      • Temporary- การเชิญที่ถูกส่งไปให้ผู้มาเยือนนั้นสามารถกำหนดวันหมดอายุได้ ตัวอย่างเช่น แขกมีสิทธิ์เข้าถึงแบบใช้ครั้งเดียวซึ่งจำกัดวันที่และเวลาที่คุณเลือกไว้

      คำแนะนำในการตั้งค่าและแก้ไขตารางการเข้าถึง

      iOS

      ในการเปลี่ยนแปลงตารางเวลาการเข้าถึง:

      1. เลือกอุปกรณ์ล็อกจาก Keychain
      2. ไปที่  Guest List
      3. เลือก guest
      4. ไปที่  App Access
      5. เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง Always, Recurring, หรือ Temporary
      การเข้า-ออกตลอดเวลา

      เลือก Always หากคุณต้องการให้แขกผู้มาเยือนของคุณเข้าถึงอุปกรณ์ล็อกของคุณได้ไม่จำกัด

      การเข้า-ออกเป็นประจำ

      เลือกวันและกรอบเวลาที่คุณต้องการให้ผู้มาเยือนสามารถเข้าถึงการอุปกณณ์ล็อกของคุณสำหรับ  การเข้า-ออก เป็นประจำ

      การเข้า-ออกชั่วคราว

      สำหรับ การเข้า-ออก แบบชั่วคราว เลือกกรอบเวลาที่คุณต้องการให้แขกผู้มาเยือนเข้าถึงอุปกรณ์ล็อกของคุณได้

      แขกผู้มาเยือนชั่วคราวจะได้รับคำเชิญแบบจำกัดด้วยกรอบเวลา ซึ่งจะเริ่มต้นและหมดอายุในเวลาที่กำหนด เช่น การเข้า-ออกแบบชั่วคราวตั้งแต่ 8:00 am 06/17/16 ถึงช่วงกลางวันของ 06/19/16. คลิ๊ก "Ok" เมื่อเสร็จสิ้นและเพื่ออัพเดท

      Android

      ในการเปลี่ยนแปลงตารางเวลาการเข้าถึง:

      1. เลือกอุปกรณ์ล็อกจาก Keychain
      2. ไปที่  Guest List
      3. เลือก guest
      4. ไปที่  App Access
      5. เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง Always, Recurring, หรือ Temporary
      การเข้า-ออกตลอดเวลา

      เลือก Always หากคุณต้องการให้แขกผู้มาเยือนของคุณเข้าถึงอุปกรณ์ล็อกของคุณได้ไม่จำกัด

      การเข้า-ออกเป็นประจำ

      เลือกวันและกรอบเวลาที่คุณต้องการให้ผู้มาเยือนสามารถเข้าถึงการอุปกณณ์ล็อกของคุณสำหรับ  การเข้า-ออก เป็นประจำ

      การเข้า-ออกชั่วคราว

      สำหรับ การเข้า-ออก แบบชั่วคราว เลือกกรอบเวลาที่คุณต้องการให้แขกผู้มาเยือนเข้าถึงอุปกรณ์ล็อกของคุณได้

      แขกผู้มาเยือนชั่วคราวจะได้รับคำเชิญแบบจำกัดด้วยกรอบเวลา ซึ่งจะเริ่มต้นและหมดอายุในเวลาที่กำหนด เช่น สามารถเข้า-ออกแบบชั่วคราวได้ตั้งแต่ 8:00 am 4/11/15 ถึง ช่วงกลางวันของ 4/13/15. คลิ๊ก "Ok" เมื่อเสร็จสิ้นและเพื่ออัพเดท

    • การแจ้งเตือนจะถูกส่งให้คุณทราบเกี่ยวกับกิจกรรมของ Yale Assure ของคุณ การแจ้งเตือนแบบอัจฉริยะจำนวนมากจะปรากฏในฟีดกิจกรรม

      ตัวเลือก Smart Alert ในปัจจุบัน ได้แก่ การล็อกด้วยตนเอง การล็อกเฉพาะ การแจ้งเตือนเมื่อเปิดประตูทิ้งไว้ การแจ้งเตือนการล็อกอัตโนมัติ และการล็อกประตูด้วยการใช้แป้นกดสัมผัสเดียว (ต้องใช้ Yale Home Smart Keypad)

      เมื่อเวลาผ่านไป การแจ้งเตือนและตัวเลือกการตั้งเวลาเพิ่มเติมจะถูกเพิ่มเข้ามา

      เพื่อประสบการณ์ Smart Alerts ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้คุณจับคู่ Yale Home Smart Lock กับ Yale Connect Bridge

      อ่านเพิ่มเติมบน iOS หรือ Android (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ) ด้านล่างสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการแจ้งเตือนอัจฉริยะรวมถึงขั้นตอนในการตั้งค่า

      iOS

      ประเภทของ Smart Alerts

      ในการเปิดตัว ผู้ใช้สามารถเลือกการแจ้งเตือนได้ 5 แบบ:

      ประตูถูกล็อคหรือปลดล็อคด้วยตนเอง

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีผู้ใช้งาน Yale Home Smart Lock ด้วยตนเองหรือใช้กุญแจ

      ประตูถูกล็อคหรือปลดล็อคโดยผู้ใช้เฉพาะ

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีแขกหรือเจ้าของใช้งานผ่านบลูทูธ ซึ่งรวมถึงการปลดล็อคล็อกโดยใช้แอปหรือปลดล็อกโดยอัตโนมัติ

      The door is left ajar

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบหากประตูเปิดทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด ระบุระยะเวลาในการตั้งค่าล็อก

      ประตูล็อคอัตโนมัติ

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อ Yale Assure Auto-Locks ของคุณ ล็อกอัตโนมัติสามารถตั้งค่าได้ในหน้าการตั้งค่าการล็อก

      ประตูถูกล็อกด้วย One-Touch Keypad (เฉพาะเมื่อใช้ Yale Home Smart Keypad จับคู่กับการล็อก)

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อ Yale Home Smart Lock ถูกล็อกโดยใช้คุณสมบัติ One-Touch Lock บน Yale Home Smart Keypad

      การสร้าง Smart Alerts

      สามารถดู Smart Alerts ได้ในส่วนการแจ้งเตือนของเมนูการตั้งค่าการล็อก วิธีเปิดใช้งาน smart alerts:

      1. เปิดแอป Yale Home และไปที่การตั้งค่าล็อค
      2. เลือก Smart Alerts
      3. เลือกปุ่มสีน้ำเงินที่ระบุว่า "Create a smart alert"
      4. จากนั้นเลือก “Choose an event” เพื่อเลือกเหตุการณ์ที่จะเรียกใช้การแจ้งเตือนอัจฉริยะ

      Android

      ประเภทของ Smart Alerts

      ในการเปิดตัว ผู้ใช้สามารถเลือกการแจ้งเตือนได้ 5 แบบ:

      ประตูถูกล็อคหรือปลดล็อคด้วยตนเอง

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีผู้ดำเนินการ Yale Assure ด้วยตนเองหรือใช้กุญแจ

      ประตูถูกล็อคหรือปลดล็อคโดยผู้ใช้เฉพาะ

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีแขกหรือเจ้าของใช้งานผ่านบลูทูธ ซึ่งรวมถึงการปลดล็อคล็อกโดยใช้แอปหรือปลดล็อกโดยอัตโนมัติ

      The door is left ajar

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบหากประตูเปิดทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด ระบุระยะเวลาในการตั้งค่าล็อก

      ประตูล็อคอัตโนมัติ

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อ Yale Assure Auto-Locks ของคุณ ล็อกอัตโนมัติสามารถตั้งค่าได้ในหน้าการตั้งค่าการล็อก

      ประตูถูกล็อกด้วย One-Touch Keypad (เฉพาะเมื่อ Smart Keypad จับคู่กับการล็อก)

      • การแจ้งเตือนนี้จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อ Yale Assure ถูกล็อกโดยใช้คุณสมบัติ One-Touch Lock บน Yale Home Smart Keypad

      การสร้าง Smart Alerts

      สามารถดู Smart Alerts ได้ในส่วนการแจ้งเตือนของเมนูการตั้งค่าการล็อก วิธีเปิดใช้งาน smart alerts:

      1. เปิดแอป Yale Home และไปที่การตั้งค่าล็อค
      2. เลือก Smart Alerts
      3. เลือกเครื่องหมายบวก (+) สีเหลืองเพื่อสร้าง Smart Alert ใหม่
      4. จากนั้นเลือก “Choose an event” เพื่อเลือกเหตุการณ์ที่จะเรียกใช้การแจ้งเตือนอัจฉริยะ
    • การรีเซ็ต Yale Home เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานเพื่อลบการตั้งค่าการล็อกทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลเจ้าของและผู้ใช้งานรายอื่น ๆ โดยจะคืนค่ากลับไปเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน การรีเซ็ตเป็นค่าจากโรงงานจะนำ keychain ออกจากเจ้าของหรือผู้ใช้งานรายอื่น การรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานสามารถทำได้โดยแอป Yale Home หากคุณอยู่ในระยะ Bluetooth

      วิธีรีเซ็ตโมดูล Yale Home

      1. เปิด Yale Home App ในขณะที่คุณอยู่ในระยะ Bluetooth
      2. ไปที่ House Settings และเลือก host lock
      3. เปิด Lock Settings
      4. เลื่อนไปที่ Factory Reset
      5. เลือก RESET

      รายละเอียดเพิ่มเติม: ขั้นตอนข้างต้นการรีเซ็ตทั้งโมดูลและอุปกรณ์ล็อกจะลบการตั้งค่า/Pin ทั้งหมด คุณจะต้องใช้ Master pin code ใหม่ HomeKit จะไม่ถูกรีเซ็ตเมื่อคุณรีเซ็ตโมดูล Yale Home เป็นค่าเริ่มต้น

      นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการรีเซ็ตล็อกโฮสต์โดยใช้ปุ่มที่อยู่บนอุปกรณ์ล็อก วิธีการรีเซ็ตนี้จะรีเซ็ตล็อกโฮสต์และ HomeKit ตำแหน่งของปุ่มรีเซ็ตจะแตกต่างกันไปตามรุ่นของโฮสต์ล็อกที่คุณมี โปรดดูคำแนะนำของผู้ผลิตสำหรับขั้นตอนการรีเซ็ต

      รายละเอียดเพิ่มเติม: การรีเซ็ตล็อกโฮสต์ของคุณโดยใช้ปุ่มรีเซ็ตของอุปกรณ์ล็อกอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการสื่อสารกับโมดูล กรุณาดูที่ บทความนี้ สำหรับขั้นตอนในการแก้ไขข้อผิดพลาด

      หากคุณย้ายเข้าบ้านใหม่และติดตั้ง Yale Home Smart Lock คุณจะต้องรีเซ็ตอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานหากอุปกรณ์ยังคงเชื่อมโยงกับเจ้าของคนก่อน

      ติดต่อฝ่ายช่วยเหลือ info.th.opening@assaabloy.com เพื่อขอความช่วยเหลือในการรีเซ็ตล็อค.

    • บทความนี้ประกอบด้วยขั้นตอนในการให้แขกของคุณเข้าถึงบ้านของคุณโดยใช้ Smart Keypad ของคุณ

      เพื่อใช้งานแอป Yale Home ทำตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อเชิญ guests สู่ Keypad เพื่อส่งและกำหนดรหัสการเข้า

      Keypad Access

      1. เปิด Yale Home App
      2. ไปที่ Guest List 
      3. เลือกปุ่ม Invite สีเหลือง

      คุณจะได้รับแจ้งเตือนให้แขกผู้มาเยือนของคุณเข้าถึงแอปหรือเข้าถึงรหัสส่วนตัว

      App Access - guests สามารถเข้าถึงล็อกของคุณโดยใช้ทั้ง Yale Home App หรือ Keypad ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อให้สิทธิ์การเข้าถึงแอปแก่แขกผู้มาเยือนของคุณ:

      1. เลือกว่าจะเชิญแขกผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือจากรายชื่อติดต่อที่บันทึกไว้จากโทรศัพท์ของคุณ
      2. ป้อนหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือเลือกจากรายชื่อ จากนั้นเลือกหมายเลขโทรศัพท์มือถือจากรายการ
      3. ยืนยันระดับการเข้าถึง (แขกหรือเจ้าของหรือไม่มี) และการเข้าถึงแอป (Always / Recurring / Temporary)*
      4. และส่งคำเชิญ
      5. แขกจะได้รับคำแนะนำให้ดาวน์โหลดแอป Yale Home (หากยังไม่เคยทำมาก่อน) จากนั้นเข้าสู่ระบบโดยใช้ตัวเลือก: I RECEIVED AN INVITE (ปุ่มสีน้ำเงิน)

      Personal Entry Code Only - แขกสามารถเข้าถึงล็อคของคุณโดยใช้ปุ่มกดเท่านั้น ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อจำกัดแขกของคุณโดยใช้รหัสส่วนตัวเท่านั้น:

      1. เชิญแขกโดยใช้รายชื่อหรือเพิ่มด้วยตนเองด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
      2. ยืนยันประเภทการเข้าถึง (Always / Recurring / Temporary)* ใส่รหัสและสลับรหัสข้อความไปเป็น Guest หากคุณต้องการให้พวกเขารับรหัสทาง SMS
      3. และเลือก SAVE CODE
      4. หากคุณเลือกตัวเลือกที่จะส่งข้อความรหัสถึงแขก ข้อความของคุณจะเปิดขึ้นพร้อมข้อความที่มีรหัสของแขก
      5. ส่งข้อความถึงพวกเขาเพื่อรับมัน

      Emergency Codes

      คุณสามารถใช้รหัสการเข้า-ออกแบบฉุกเฉินเพื่อให้เข้าถึงอุปกรณ์ล็อกของคุณได้ทันที หากคุณไม่สามารถให้รหัสเข้าส่วนตัวกับแขกของคุณได้

      *สำหรับ Yale Home Smart Lock รุ่นที่ 2 หรือใหม่กว่า

    Yale Access to Yale Home Integrations information

    ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม แอป Yale Access จะเปลี่ยนเป็นแอป Yale Home เพื่อให้ผู้ใช้มีระบบนิเวศเยลของอุปกรณ์อัจฉริยะและการผสานรวมที่เชื่อมต่อกันมากขึ้น ทั้งหมดนี้ควบคุมได้ง่ายโดยใช้แอปเดียวที่ใช้งานง่าย หากคุณใช้การผสานรวมแบบใดแบบหนึ่งด้านล่าง เราขอแจ้งให้คุณทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการทำงานของอุปกรณ์

    การผสานรวมกับอุปกรณ์ Yale ของคุณจะต้องมีการตั้งค่าใหม่ในแอป Yale Home เพื่อใช้บริการนี้ต่อไป การผสานการทำงานบางอย่างจะไม่สามารถใช้ได้สำหรับผู้ใช้ภายในแอป Yale Home ตั้งแต่วันที่ 17 ดังนั้นหากคุณโอนบัญชีของคุณ การผสานรวมกับอุปกรณ์ของเราจะไม่สามารถทำได้ หากคุณเลือกที่จะรอเพื่อย้ายบัญชีของคุณ คุณจะยังคงสามารถใช้การผสานรวมของเราบนแอป Yale Access ได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน

    เราจะแจ้งให้คุณทราบโดยเร็วที่สุดเมื่อการผสานรวมด้านล่างจะทำงานและพร้อมใช้งานภายในแอปของพันธมิตรของเรา

    เมื่อพร้อมแล้ว ให้ดาวน์โหลดแอป Yale Home และเข้าสู่ระบบด้วยรายละเอียดที่มีอยู่ที่คุณใช้เพื่อเข้าสู่ระบบแอป Yale Access ของคุณ ด้วยแอปใหม่ คุณไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีใหม่หรือตั้งค่าผลิตภัณฑ์ของคุณอีกครั้ง เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้แล้ว คุณก็พร้อมดำเนินการต่อ เมื่อคุณโอนย้ายบัญชีของคุณไปยังแอปใหม่แล้ว โปรดทำตามคำแนะนำเพื่อสร้างการเชื่อมต่อของคุณ หรือดูว่าการผสานรวมนั้นสามารถสร้างใหม่ได้ภายในแอปของพันธมิตรของเราเท่านั้น

    Integration

    Status 

    Region

    Airbnb

    Global

     



    Global

     


    Global

     


    Global

     


    Global

     


    Global

    ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม