รองรับแอปพลิเคชั่น Yale Home

เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด Yale Connect ได้ให้การสนับสนุนแอปพลิเคชั่นสำหรับระบบ iOS และ Android

*หากคุณใช้งาน iOS เวอร์ชั่นเก่ากว่า คุณอาจประสบปัญหาการใช้งานได้ โปรดติดต่อฝ่ายช่วยเหลือลูกค้าของเราที่ info.th.opening@assaabloy.com.

ระบบ iOS ที่ใช้งานร่วมกันได้

อุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้  ได้แก่โทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ หรือใช้ iOS เวอร์ชั่น 13 ขึ้นไป* มีข้อมูลที่จะช่วยคุณระบุอุปกรณ์ iOS ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้  ที่นี่

ระบบ Android ที่ใช้งานร่วมกันได้

อุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อ Yale กับโทรศัพท์ระบบ Android ได้นั้น ส่วนใหญ่มี Bluetooth 4.0 และใช้ Android 8* หรือสูงกว่า เราทำการทดสอบกับโทรศัพท์จากผู้ผลิตรายใหญ่เป็นประจำ เช่น Samsung, Google และ HTC

ในบางกรณีในโทรศัพท์บางรุ่น สแต็ค Bluetooth ของ Android อาจค้างอยู่ในสถานะที่ไม่ดี และอาจจำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยการเปิด-ปิดบลูทูธ  ด้านล่างนี้คืออุปกรณ์ที่ประสิทธิภาพที่ไม่สอดคล้องกัน ด้านการใช้งาน:

One+One

One+Two

LG V10

LG G4

Yale เราช่วยคุณรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานได้ หากคุณได้รับอุปกรณ์ Yale ที่ใช้ก่อนหน้านี้ กรุณาติดต่อฝ่ายช่วยเหลือได้ที่ info.th.opening@assaabloy.com และแสดงหลักฐานการซื้อที่ถูกต้อง (ถ้าเป็นไปได้) รวมถึงหมายเลขซีเรียลซึ่งอยู่ที่ด้านหลังของอุปกรณ์ ทีมช่วยเหลือของ Yale จะติดต่อเพื่อทำการรีเซ็ตให้เป็นค่าจากโรงงาน  หากคุณเป็นเจ้าของอุปกรณ์ล็อกและต้องการโอนอุปกรณ์ล็อกของคุณไปยังเจ้าของคนใหม่ ทางที่ดีที่สุดคือ factory reset ล็อกของคุณก่อนที่จะโอนไปให้เจ้าของคนใหม่.

การรีเซ็ตให้เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานนั้นจะลบข้อมูลทั้งหมด เช่นข้อมูลแขกและข้อมูลเจ้าของออกจากระบบโดยจะคืนค่ากลับไปเป็นค่าเดิมทันที  เป็นการล้างข้อมูลออกจาก keychains ของแขกด้วยเช่นกัน คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้อุปกรณ์เพื่อทำการรีเซ็ต แต่คุณต้องมีสิทธิ์ในการเข้าถึงอุปกรณ์นั้นที่จะทำการรีเซ็ต หากมี Keypad ที่จับคู่ไว้จะต้องถอด Keypad ออกก่อนที่จะรีเซ็ตค่า

คำแนะนำในการรีเซ็ตให้เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน

ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อทำการรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน : 

1. เปิดแอป Yale และไปที่วงกลมล็อกซึ่งเป็นหน้าจอที่แสดงว่าประตูของคุณล็อกหรือปลดล็อกอยู่
2. เลือกเมนูการตั้งค่า (ไอคอนรูปเฟือง gear icon)
3. เลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการรีเซ็ต
4. เลื่อนไปที่การรีเซ็ตเป็นค่าจากโรงงาน
5. เลือก "Reset Lock"

ขั้นตอนเหล่านี้คือการคืนค่าให้กลับไปเป็นการค่าเดิมจากโรงงาน  

หากคุณพยายามทำการรีเซ็ต แต่ไม่ได้เชื่อมต่อกับบลูทูธ คุณจะได้รับการแจ้งเตือน "Trouble Connecting to Lock" หากเป็นไปได้ให้คุณอยู่ในระยะบลูทูธ แต่หากคุณอยู่ในระยะดังกล่าวแล้วแต่ไม่สามารถรีเซ็ตได้ให้เลือก "Reset Anyway" เมื่อคุณได้รับการแจ้งเตือน

อุปกรณ์เป็นของเจ้าของเดิม

หากคุณไม่ใช่เจ้าของเดิมของอุปกรณ์ล็อก ทีมซัพพอร์ตของ Yale ช่วยคุณในการรีเซ็ตให้เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน กรุณาติดต่อ info.th.opening@assaabloy.com  และแสดงหลักฐานการซื้อที่ถูกต้อง (ถ้าเป็นไปได้) และหมายเลข serial number ของ Yale Smart Lock ซึ่งอยู่ที่ด้านหลังของตัวล็อก ทีมช่วยเหลือของ Yale จะติดต่อเจ้าของเดิมเพื่อทำการรีเซ็ตให้เป็นค่าจากโรงงาน

Yale Home Smart Lock ใช้งานร่วมกับ Google Home หรืออุปกรณ์ที่รองรับ Google Assistant ได้ด้วยการผสานการทำงานร่วมกับกับ Google Assistant และ Yale Home เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้งาน Google Assistant เพื่อควบคุมการเข้า-ออกหรือตรวจสอบและเช็คสถานะประตูของคุณได้ด้วยเสียงของคุณเอง

กำหนดค่า Google Home ด้วยบัญชี Yale Home ได้อย่างไร ?

ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อจับคู่บัญชี Yale Home กับบัญชี Google Home คุณต้องมีอุปกรณ์ Google เช่น Google Home, Google Home Mini หรือ Google Home Max อยู่แล้ว กำหนดค่าเป็นเครือข่ายในบ้านของคุณ :

1. เปิด Google Home app และล็อคอินสู่ Google Account
2. เลือก Add (+) ที่ตัวเลือกด้านบน
3. เลือก Set up a device
4. ใต้ Works With, เลือก “Have something already set up?”
5. เลื่อนลงมาและค้นหา Yale Home ใน Manage Accounts menu
6. ทำตามขั้นตอนเพื่อลงชื่อเข้าใช้และยืนยันบัญชี Yale Home ของคุณ
7. คุณต้องยินยอมให้ Google ใช้งาน Yale Home Smart Locks ของคุณ / หรือดูสถานะของ Yale Home Smart Locks ของคุณได้
8. ขั้นตอนต่อไป เลือก Security code/PIN อย่าลืมใช้รหัสที่น่าเชื่อถือเพราะจำเป็นสำหรับการควบคุมการล็อกด้วยการใช้ Google Home

เสร็จสิ้นขั้นตอนการกำหนดค่า เพื่อให้แน่ใจว่าการกำหนดค่าสำเร็จ ให้ไปที่หน้าจอหลักของแอป Google Home และเลื่อนไปจนกว่าคุณจะเห็นล็อกที่เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณ

เมื่อบัญชีของคุณได้รับการกำหนดค่าแล้ว หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมด้านการตั้งค่าอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเพื่อใช้งานกับ Google Home บทความนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมในการกำหนดค่า Smart Lock เพื่อการใช้งานร่วมกับบัญชี Yale Home ของคุณโดยการเชื่อมต่อกับ Google เมื่อผ่านหน้าแรกแล้ว คุณสามารถติดตามสถานะหรือตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์ได้ :

• “OK Google, lock my front door” (ใช้ชื่อที่กำหนดให้กับประตูของคุณในแอป Yale Home)
• “OK Google, is my front door locked?”
• "OK Google, unlock my front door." Google Home จะแจ้งให้คุณใส่รหัส PIN code (Reply with your PIN to unlock the door) หน้าแรกของ Google จะยืนยันว่าการดำเนินการนี้สำเร็จโดยระบุว่า “The lock has been unlocked.”

หากคุณติดตั้ง DoorSense ไว้ที่ประตูเพื่อระบุว่าประตูเปิดหรือปิดอยู่ คุณสามารถตรวจสอบสถานะนั้นได้โดยพูดว่า :

• “OK Google, is my front door closed?”

รายละเอียดเพิ่มเติม : หากคุณเปลี่ยนชื่อล็อกของคุณในแอป Yale Home ทางที่ดีควรเชื่อมโยงบัญชีใหม่ของคุณเพื่อให้ Google Home รู้จักชื่อใหม่ด้วยเช่นกัน

อัปเดตรหัส/PIN สำหรับปลดล็อกโดยใช้ Google Home ได้อย่างไร?

ในการอัปเดตรหัส/PIN คุณจะต้องยกเลิกการเชื่อมต่อบัญชี Yale Home กับบัญชี Google ของคุณก่อน ในการดำเนินการนี้ ให้ยกเลิกการลิงก์บัญชี Yale Home จาก Google Home ในแอป Google Home ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อรีเซ็ต PIN ของคุณ :

1. เปิด Google Home App แล้วเลื่อนไปจนเห็น Yale Home Smart Lock ที่จับคู่กับบัญชี Google Home ของคุณ
2. เลือก (any) lock
3. เลือก “Unlink Yale Home”
4. ยืนยัน Unlink
5. บนหน้า “Manage Account” เลือก Yale Home
6. แตะ “Unlink account” และยืนยัน Unlink

เมื่อคุณยกเลิกการเชื่อมโยงบัญชีของคุณแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนการตั้งค่าอีกครั้ง

เหตุใดจึงต้องใช้ Bridge หากอุปกรณ์ Google มีบลูทูธในตัว?

Google Home ต้องการ Yale Home Module Wi-Fi bridge เพื่อทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเราและทำการผสานการทำงานร่วมกันกับ Yale Home Smart Lock ให้สมบูรณ์ ไดอะแกรมทางด้านขวาอธิบายวิธีการทำงานของการทำงานร่วมกัน :

จะยกเลิกการเชื่อมต่อบัญชี Google Home และ Yale Home ได้อย่างไร?

1. เปิด Google Home app
2. เลือก Lock
3. เลือก "Unlink Yale Home"
4. เมื่อได้รับแจ้ง ให้เลือก "Unlink"
5. เลือก Yale Home
6. เลือก Unlink Account และ Unlink เมื่อได้รับแจ้ง

ทำงานอย่างไร?

1. แตะที่ HomeKit
2. เลือก Existing HomeKit home หรือเลือกเพิ่มชุดใหม่
3. เลือก Add a new HomeKit home แล้วแตะถัดไป
4. ตั้งชื่อบ้านของคุณ แตะดำเนินการต่อ
5. จากนั้นระบบจะถามคุณว่าต้องการเพิ่มล็อกไปที่ห้องใด หรือคุณสามารถเลือกไม่ใช้แล้วเลือกไม่มี แตะดำเนินการต่อ
6. ค้นหารหัสอุปกรณ์เสริม Homekit 8-digit บน Yale Smart Lock สามารถพบได้ที่ฝาครอบแบตเตอรี่หรือโมดูล Homekit สำหรับชุดล็อค Assure
7. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทรศัพท์ของคุณอยู่ใกล้กับล็อกและ powered HomeKit
8. วางโค้ดในเฟรมเพื่อให้ HomeKit สามารถสแกนได้
9. หากคุณมีปัญหาในการสแกน คุณยังสามารถป้อนรหัสแปดหลักได้ด้วยตนเอง เพียงแค่แตะ learn about home accessories home kit จะค้นหาล็อกของคุณ
10. คุณพร้อมที่จะใช้งาน Siri เพื่อใช้งาน Smart Lock แล้ว

จะติดตั้ง HomeKit ได้อย่างไร?

สามารถติดตั้งและตั้งค่าสำหรับ HomeKit Enabled Smart Lock ได้  ที่นี่. การตั้งค่าในแอปมีขั้นตอนเพิ่มเติมในการเปิดใช้งาน HomeKit

อายุการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับ Smart Lock ที่เปิดใช้งาน HomeKit คือเท่าใด?

เมื่อได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้อง (ไม่ดัน ดึง หรือยกประตูของคุณ) หรือตัว deadbolt ไม่ "ติดแน่น" จนเกินไป แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานถึง 3 เดือน

Siri ทำงานจากระยะไกลได้หรือไม่?

ได้ หากคุณมี Apple TV รุ่นที่ 4 อยู่ภายในช่วงระยะบลูทูธของ Smart Lock ที่ได้รับการตั้งค่าให้ทำงานร่วมกับ HomeKit คุณสามารถใช้ Siri จากระยะไกลหรือสั่งการจากระยะไกลผ่าน Home app ได้ ไดอะแกรมทางด้านขวาอธิบายวิธีการทำงานร่วมกัน :

จะรีเซ็ต HomeKit ได้อย่างไร

Yale Assure Series

1. ใส่รหัสมาสเตอร์
2. เลือก 7
3. เลือก 3 , #, #, เพื่อยกเลิกการลงทะเบียนโมดูล
4. ถอดแบตเตอรี่ 1 ก้อนออกจากตัวล็อก
5. รอ 10 วินาที แล้วใส่แบตเตอรี่กลับเข้าไปในตัวล็อก
6. ใส่รหัสมาสเตอร์
7. เลือก 7
8. เลอก 1 , #, #, เพื่อลงทะเบียนโมดูลอีกครั้ง

การเชิญเจ้าของใหม่สู่ Smart Lock ที่เปิดใช้งาน HomeKit

หากคุณมี Smart Lock ที่เปิดใช้งาน HomeKit คุณสามารถเพิ่มเจ้าของใหม่และให้สิทธิ์เข้าถึง HomeKit ได้ในเวลาเดียวกัน  

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแชร์การเข้าถึง HomeKit กับผู้ใช้รายอื่น โปรดดูที่  บทความนี้.

Yale Home Smart Lock ทำงานคู่กับอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานร่วมกับ Alexa ทั้งหมด รวมถึง Echo Show, Echo Plus, Echo, Echo Dot แม้แต่อุปกรณ์ Sonos ที่เปิดใช้งานบน Alexa

1. Amazon Alexa และ Amazon Echo คืออะไร?

Alexa เป็นผู้ช่วยเสียงของ Amazon ซึ่งมีอยู่ในลำโพงอัจฉริยะ Amazon Echo, แท็บเล็ต Fire, ผลิตภัณฑ์ Fire TV และแอปมือถือ Alexa คลิ๊กที่นี่ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ Echo & Alexa

2. Amazon Alexa ทำงานร่วมกับ Yale Home อย่างไร?

ในการผสานการทำงานร่วมกันนี้ คุณสามารถใช้ Alexa เพื่อโต้ตอบกับ Yale Home Smart Lock ด้วยเสียงของคุณ Yale Home ของคุณต้องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi โดยใช้ Yale Connect Bridge มีสองวิธีหลักในการโต้ตอบกับ Alexa และเราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าทักษะการโต้ตอบของ Alexa

ทักษะ Alexa Smart Home คืออะไร?

นี่คือทักษะ Alexa Smart Home Skills อย่างเป็นทางการคุณสามารถพูดได้…

• “Alexa, lock my door.”
• “Alexa, is my front door locked?”
• "Alexa, order an August Smart Keypad."

นี่คือทักษะ Alexa Smart Home อย่างเป็นทางการของ Yale

เหตุใดจึงต้องใช้ Yale Connect Bridge หากอุปกรณ์ Amazon ของฉันมีบลูทูธในตัว?

Amazon Alexa ต้องใช้ Yale Connect Bridge เพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเราเป็นการผสานการทำงานร่วมกับ Yale Home Smart Lock ของคุณให้สมบูรณ์ ไดอะแกรมทางด้านขวาอธิบายวิธีการทำงานร่วมกัน :

หากคุณมี Apple Watch และ Yale Assure Lock พร้อม Wi-Fi หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้กับแอป Yale Home คุณสามารถใช้ Apple Watch เพื่อล็อกหรือปลดล็อกได้ หากต้องการล็อกหรือปลดล็อกด้วย Apple Watch ให้เปิดแอป Yale Home แตะวงกลมล็อกสีเขียวเพื่อปลดล็อกประตู ในทางกลับกัน ให้แตะวงกลมล็อกสีแดงเพื่อล็อกอีกครั้ง "การใช้งานจากระยะไกลและการปลดล็อกอัตโนมัติใช้ไม่ได้กับ Apple Watch"

โปรดทราบ: Yale Home สำหรับ Apple Watch มีให้สำหรับเจ้าของล็อกเท่านั้น หากคุณต้องการใช้งานล็อกโดยใช้ Apple Watch คุณต้องเป็นเจ้าของอุปกรณ์ล็อกนั้น ๆ  Apple ให้คำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าแอปของคุณให้ปรากฏบนนาฬิกาของคุณที่นี่

การแก้ไขปัญหา Apple Watch และ Yale Home

หากคุณประสบปัญหาในการใช้แอป Yale Home บน Apple Watch ขั้นตอนการแก้ไขปัญหาต่อไปนี้น่าจะช่วยได้:

รายละเอียดเพิ่มเติม: Yale Home สำหรับ Apple Watch มีให้สำหรับเจ้าของล็อกเท่านั้น หาก Watch App แสดงไม่มีการล็อก นั่นหมายความว่าการเข้าถึงอุปกรณ์ล็อกของคุณอาจถูกจำกัดสิทธิ์ กรุณาติดต่อเจ้าของล็อกเพื่อปรับระดับการเข้าถึงการใช้งานของคุณ

ขั้นแรก ให้รีเซ็ตรหัสผ่านบัญชีของคุณ หากคุณไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร คุณจะต้องใช้ข้อมูลรับรองบัญชีของคุณเพื่อทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหา :

1. จาก iPhone ของคุณให้เปิดแอป Yale Home
2. แตะเมนูที่มุมซ้ายบน
3. เลือกดูโปรไฟล์เพื่อเปิดการตั้งค่าผู้ใช้
4. ไปที่เปลี่ยนรหัสผ่านและอัปเดต

ถัดไป ถอนการติดตั้ง Yale Home App จาก iPhone ของคุณโดยเลือกแอปจนกว่า X จะปรากฏขึ้น จากนั้นลบออกจากอุปกรณ์

จากนั้นเปิดเครื่อง iPhone และ Apple Watch ของคุณโดยปิดสวิตช์แต่ละอันแล้วเปิดใหม่

ติดตั้งแอป Yale Home อีกครั้งบน iPhone ของคุณโดยดาวน์โหลดจาก Apple Store.

เมื่อดาวน์โหลดแอปลงบน iPhone ของคุณแล้ว ให้ลงชื่อเข้าใช้ใหม่โดยใช้ข้อมูลรับรองที่อัปเดตของคุณ

ต่อไป คุณจะต้องแน่ใจว่าคุณสามารถมองเห็นแอป Yale Home บน Apple Watch ของคุณได้:

1. บน iPhone ของคุณ ให้เปิด Watch app
2. ไปที่ Yale Home
3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดการใช้งานตัวเลือก “Show App on Watch”

จากนั้นเปิดแอป Yale Home ไปที่หน้าจอบน iPhone ของคุณและบน Apple Watch

โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ก่อนที่จะดำเนินการกับ Apple Watch ของคุณ:

1. เมื่อเปิดแอป Yale Home ให้กดปุ่มแบนที่ด้านขวามือของ Apple Watch ค้างไว้
2. ปล่อยปุ่มเพื่อปิดเครื่องนาฬิกา
3. กดเม็ดมะยม/แป้นหมุนของนาฬิกาค้างไว้ แล้วเครื่องจะปิดแอป Yale Home ของคุณ
4. ลองใช้งานเปิด-ปิดอุปกรณ์ล็อกของคุณโดยใช้ Apple Watch

คุณควรจะใช้งานอุปกรณ์ Yale Home โดยใช้ Apple Watch ได้ หากคุณยังคงประสบปัญหา  ตรวจสอบข้อมูลที่มีอยู่จาก Apple  ได้ที่นี่.

โปรดทราบ: หากคุณเปิดใช้งานการปลดล็อกอัตโนมัติ คุณจะต้องเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น